การเตรียมตัวก่อนทำจมูก
งดสูบบุหรี่, งดเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ทุกชนิด อย่างน้อยก่อนทำศํลยกรรม 1 สัปดาห์
งดยาแก้ปวด ลดกล้ามเนื้ออักเสบ ก่อนผ่าตัด เช่น ยากลุ่มแอสไพริน (Aspirin) หรือ ไอบิวโพรเฟน (Ibuprofen) เพื่อลดอาการฟกช้ำจากเลือดคั่งหลังผ่าตัด แต่กรณีที่จำเป็นต้องใช้ แนะนำให้ใช้ยาพาราเซตามอลในการบรรเทาอาการปวดเท่านั้น
ควรงดวิตามิน น้ำมันตับปลา อาหารเสริมต่าง ๆ ทุกชนิด เนื่องจากอาหารเสริมเหล่านี้ ไม่ว่าสรรพคุณจะดีงามขนาดไหน ก็เกิดอากรเลือดหยุดไหลช้า หมอไม่รับเพราะผ่าตัดยากแถมหลังผ่าจะเหมือนโดนรุมต่อยมา
งดของแสลงจำพวกของดอง น้ำอัดลมรวมถึงอาหารทะเล หากสามารถงดได้ล่วงหน้า แนะนำให้งด
การดูแลหลังผ่าตัด
โดยปกติแล้วการผ่าตัดทำจมูกจะใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมง จากนั้นจะมีการนอนพักเพื่อดูอาการ หากไม่มีอะไรที่ผิดปกติแพทย์จะให้กลับไปพักผ่อนที่บ้านได้ อาจต้องใช้เวลาประมาณ 3 สัปดาห์ขึ้นไปอาการบวมและแดงจึงจะค่อย ๆ ลดลง และเผยให้เห็นรูปร่างของจมูกที่เปลี่ยนไปได้ชัดเจนขึ้น ซึ่งแล้วแต่สภาวะร่างกายของแต่ละบุคคล
ทว่าการผ่าตัดศัลยกรรมจมูกก็มีความเสี่ยงและสามารถพบภาวะแทรกซ้อนได้ ซึ่งเป็นภาวะแทรกซ้อนที่เกิดจากการผ่าตัด ได้แก่
เลือดออกในปริมาณมาก การผ่าตัดทุกชนิดเป็นสาเหตุของการสูญเสียเลือด แต่หากการสูญเสียเลือดนั้นมากเกินควบคุมอาจส่งผลอันตรายต่อผู้เข้ารับการผ่าตัด โดยอาจทำให้ความดันโลหิตต่ำ และเข้าสู่ภาวะขาดเลือด
การติดเชื้อ แม้การดูแลรักษาหลังผ่าตัดที่ดีจะช่วยลดความเสี่ยงในการติดเชื้อได้ แต่การติดเชื้อก็ยังคงเป็นหนึ่งในภาวะแทรกซ้อนที่สามารถพบได้บ่อยในการผ่าตัดศัลยกรรม โดยบางรายอาจเกิดการติดเชื้อภายในและรุนแรงจนอาจเป็นอันตรายถึงชีวิตได้
เกิดแผลเป็น โดยปกติแล้วการผ่าตัดส่วนใหญ่มักก่อให้เกิดแผลเป็นในภายหลัง แต่ถ้าหากเป็นการผ่าตัดศัลยกรรม แผลเป็นถือเป็นปัญหาใหญ่ ดังนั้นหากเกิดแผลเป็นขึ้นควรรีบไปพบแพทย์
นอกจากนี้ยังอาจพบภาวะความเสี่ยงอื่น ๆ ที่อาจเกิดจากความผิดพลาดจากการผ่าตัดหรือผลข้างเคียงจากการใช้ยาชา เช่น
ผนังกั้นช่องจมูกทะลุ
หายใจทางจมูกได้ลำบากเนื่องจากลักษณะของรูจมูกเปลี่ยนไป
เกิดอาการชาอย่างถาวรภายในหรือบริเวณรอบ ๆ จมูก
อาการเจ็บปวด บริเวณจมูกเปลี่ยนสี หรือมือาการบวมอย่างต่อเนื่อง
จมูกเบี้ยว
จมูกอุดตันจนทำให้หายใจทางจมูกไม่ได้ และต้องหายใจทางปากแทน
มีเลือดกำเดาออกเล็กน้อยหลังการผ่าตัดช่วงแรก ๆ
เกิดอาการแพ้ยาหรือยาสลบที่ใช้
การรับกลิ่นผิดเพี้ยน
สำหรับการดูแลรักษาตนเองหลังจากการผ่าตัดศัลยกรรมจมูก เพื่อให้อาการค่อย ๆ ดีขึ้นอย่างรวดเร็วผู้เข้ารับการผ่าตัดควรดูแลตัวเองดังนี้
นอนหนุนหมอนให้สูงขึ้น เวลาพักผ่อนควรเสริมหมอนที่ใช้รองคอให้สูงขึ้นติดต่อกันอย่างน้อย 7 วันเพื่อลดอาการบวม
ประคบเย็นด้วยน้ำแข็งบริเวณข้างสันจมูกเพื่อหยุดการไหลของเลือดจากการผ่าตัด เป็นเวลา 1 อาทิตย์ หลังจากนั้นประคบร้อนเพื่อไล่ลิ่มเลือดให้สลายจนกว่าลิ่มเลือดจะสลายหมดไป
หลีกเลี่ยงอาหารรสจัด ของหมักดอง อาหารฤทธิ์ร้อน (เช่น ทุเรียน ลำไย )
งดแอลกฮอล์ บุหรี่ หรือยา อาหารเสริมที่ทำให้เกิดการสูบฉีดของเลือด
งดอาหารทะเล
หมั่นเช็ดแผลด้วยเบตาดีนและน้ำเกลือ อย่าให้แผลเป็นสะเก็ด เพราะจะทำให้เกิดแผลเป็น ควรเช็ดแผลทุก 2 – 3 ชั่วโมง (น้ำเกลือ สลับ เบตาดีน)
หลีกเลี่ยงการเกิดแรงดันที่จมูก เช่น การจาม ควรจามแบบเปิดปาก และห้ามสั่งน้ำมูก
หลีกเลี่ยงฝุ่นและควัน หากเลี่ยงไม่ได้ควรใช้ผ้าปิดปากเพื่อป้องกัน
หลีกเลี่ยงการออกกำลังกายหนัก ๆ อย่างน้อย 4-6 สัปดาห์
รับประทานยาแก้ปวดเมื่อมีอาการปวด หรือยาแก้ปวดที่แพทย์สั่ง
ไม่เพียงเท่านั้น ควรหลีกเลี่ยงการเคี้ยวอาหารเยอะ ๆ และแสดงสีหน้า ยิ้ม หัวเราะ อย่างพอดีเพื่อไม่ให้แผลได้รับการกระทบกระเทือน อีกทั้งหากถอดเสื้อควรถอดอย่างระมัดระวังไม่ให้โดนในส่วนของจมูก การแปรงฟันก็ควรแปรงเบา ๆ เพื่อไม่ให้กระเทือนไปถึงแผลผ่าตัด และระมัดระวังการสวมแว่นตาทุกชนิด ที่สำคัญที่สุดคือควรหลีกเลี่ยงแสงแดด เพราะแสงแดดที่มากเกินไปอาจทำให้ผิวบริเวณจมูกเปลี่ยนสีและเป็นอันตรายได้
หลังจากการผ่าตัดศัลยกรรม ผู้เข้ารับการผ่าตัดสามารถกลับไปใช้ชีวิตได้ตามปกติภายในเวลา 1 สัปดาห์ แต่ในระยะประมาณ 2-3 สัปดาห์แรกอาจมีอาการที่เป็นผลกระทบบริเวณรอบดวงตา อาทิ อาการชา อาการบวม หรือผิวหนังบริเวณรอบดวงตาเปลี่ยนสี แต่มีในกรณีที่น้อยมากที่อาการบวมอาจจะอยู่นานถึง 6 เดือน ผู้เข้ารับการผ่าตัดสามารถประคบเย็นเพื่อบรรเทาอาการบวมให้ลดลง
ที่สำคัญ หลังการผ่าตัด ผู้เข้ารับการผ่าตัดควรไปพบแพทย์ให้ตรงตามนัดและควรปฏิบัติตามคำแนะนำของแพทย์อย่างเคร่งครัด