ศัลยกรรมคาง

                      การเสริมคาง มีจุดมุ่งหมายเพื่อทำให้คางมีส่วนยื่นออกมาด้านหน้ามากขึ้น ช่วยเติมเต็มรูปร่างของคางให้สมบูรณ์ ทำให้ใบหน้าดูยาวเรียว รูปหน้าได้สัดส่วนที่ดีขึ้น สำหรับผู้ที่มีรูปใบหน้าเป็นรูปเหลี่ยมและต้องการให้ใบหน้าดูยาวขึ้น โดยไม่ต้องตัดกราม การเสริมคางเป็นวิธีที่ง่าย ไม่ต้องดมยาสลบและสามารถแก้ไขกลับเป็นปกติได้ถ้าไม่ต้องการการศัลยกรรมเสริมคาง เป็นหนึ่งในศัลยกรรมการปรับแต่งรูปใบหน้า  คนเอเชียและคนไทยส่วนใหญ่มักจะพบกับปัญหาคางตัด รูปใบหน้าเป็นหน้าเหลี่ยมและคางสั้น การทำศัลยกรรมคางจะ สามารถช่วยเติมเต็มรูปร่างของคาง เพราะรูปขนาดของคางนั้น เป็นปัจจัยหนึ่งที่กำหนด มิติของใบหน้าส่วนล่าง เช่น บางคนมีรูปคางสั้น บางคนมีรูปคางเล็ก บ้างคนมีรูปคางไม่มีความนูนหรือรูปคางร่นมาด้านหลัง จึงทำให้ใบหน้าดูกลมและหน้าสั้น คออาจจะดูมีเนื้อเยอะซึ่งทำให้ รูปลักษณ์ที่ไม่สวยงาม และปัญหาเหล่านี้สามารถที่จะแก้ไขได้ โดยการเสริมคาง เพื่อทำให้สามารถมองเห็นรูปคางได้อย่างชัดเจน ใบหน้าส่วนล่างก็จะแลดูมีมิติ และสมดุลสมบูรณ์ดี

การเตรียมตัวก่อนผ่าตัด

งดยาต้านการอักเสบ ( NSAID ) เช่นแอสไพริน บุหรี่ อาหารเสริมบางตัวที่มีผลต่อการแข็งตัวของเลือด เช่น กระเทียม น้ำมันปลา อย่างน้อย 2 สัปดาห์ ก่อนการผ่าตัดสมุนไพรบางชนิด เช่น อีฟนิ่งพริมโรส ยาวิตามินอีปริมาณสูง ๆ อาหารที่มีส่วนผสมของผงชูรส กระเทียม หัวหอม ผลิตภัณฑ์จากถั่วเหลือง อาจทำให้เลือดออกมากผิดปกติหรือมีปัญหาระหว่างผ่าตัด ควรแจ้งให้แพทย์ทราบเพราะอาจต้องหยุดรับประทานสมุนไพรก่อนเข้ารับการผ่าตัดประมาณ 7  วัน แปรงฟันและทานอาหารให้พร้อมก่อนผ่าตัด เนื่องจากหลังผ่าตัดมักทานอาหารได้น้อยลาหยุดงานประมาณ 3-5 วันควรพาญาติมาด้วยในวันผ่าตัด

การดูแลหลังการผ่าตัด

  1. ประคบเย็นตรงคางให้บ่อยที่สุด นาน 2 วัน หรือ จนกว่าจะยุบบวม
  2. นอนศีรษะสูง 2 วัน สามารถนอนตะแคงศีรษะได้
  3. ระมัดระวังเวลายิ้มอย่ายิ้มกว้างมากในช่วงแรก
  4. งดรับประทานอาหารที่มีรสเผ็ดจัดหรือแข็งมาก
  5. ดื่มน้ำโดยใช้หลอดและหลีกเลี่ยงการดื่มน้ำหรืออาหารที่ร้อนหรือเย็นเกินไป
  6. ผักผลไม้ที่นำมารับประทานควรล้างให้สะอาดไม่ควรกินปลาดิบหรือเนื้อที่ไม่สุก หรืออาหารที่มีโอกาสปนเปื้อนเชื้อโรคได้มาก
  7. หลีกเลี่ยงเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ใน 2 สัปดาห์แรกหลังการผ่าตัด
  8. หลีกเลี่ยงการสูบบุหรี่ 3 สัปดาห์หลังการผ่าตัด
  9. ควรดื่มน้ำมากๆ
  10. ควรบ้วนปากบ่อยๆ ด้วยน้ำเกลือหรือน้ำยาบ้วนปาก
  11. ไม่ควรใช้ลิ้นดุนหรือใช้มือดึงไหมที่เย็บแผลในปาก
  12. ทำกิจวัตรประจำวันที่ไม่หนักได้ตามปกติ งดออกกำลังกายหนัก 10 วัน
  13. ระวังการกระแทกบริเวณคางหรือนั่งค้ำดันคาง
  14. งดออกกำลังกายที่อาจต้องมีการปะทะเช่นฟุตบอล บาสเกตบอล แฮนด์บอลประมาณ 4 สัปดาห์

ขั้นตอนการผ่าตัด

  1. ทำให้หลับด้วยยานอนหลับ และฉีดยาชา
  2. แพทย์จะทำการเปิดแผลภายนอกหรือภายในปากตามความเหมาะสม
  3. แยกเยื่อหุ้มกระดูกคางตรงขอบล่างขึ้นมา
  4. วางแท่งซิลิโคนเข้าไปให้พอดีกับตำแหน่งที่ต้องการ
  5. เย็บแผลปิดด้วยไหมละลาย ใช้เวลาทั้งหมดไม่เกิน 1 ชั่วโมง

ข้อจำกัดในการทำศัลยกรรมเสริมคาง

สำหรับคนไข้ที่มีคางลักษณะสั้นมากหรือถอยไปด้านหลัง ไม่ควรที่จะเสริมด้วยซิลิโคน เพราะจำเป็นที่จะต้องใช้ซิลิโคนที่มีขนาดใหญ่มาก ควรใช้วิธีการศัลยกรรมเลื่อนกระดูกคางแทน โดยเฉพาะคนไข้ที่มีปัญหาเรื่องการสบฟัน

 -สำหรับคนไข้ที่มีคางที่บิดเบี้ยวไม่เท่ากันจากโครงกระดูกคาง เมื่อทำการเสริมด้วยซิลิโคนอาจจะทำให้เกิดการบิดเบี้ยวได้ง่าย ในกรณีนี้แพทย์จะต้องวินิจฉัยโรคที่เป็นและแก้ไขหาสาเหตุก่อน

 -สำหรับคนไข้ที่คางเคยฉีดซิลิโคนเหลวหรือสารอื่นๆ มาก่อน ลักษณะรูปทรงของคางนั้นจะควบคุมได้ค่อนข้างยาก อันเนื่องมากจากซิลิโคนเหลวที่แทรกที่ผิวหรือสารที่ตกค้างอยู่ภายในเนื้อ

ใครเหมาะที่จะทำศัลยกรรมเสริมคาง ?

การทำศัลยกรรมเสริมคางอาจจะไม่ดีเสมอไป สำหรับผู้ที่มีปัญหาเรื่องคางหลบหรือคางสั้น ผู้ที่เหมาะสมที่จะทำการศัลยกรรมเสริมคาง ยังต้ององค์ประกอบไปด้วยโครงสร้างส่วนของฟันและฟันกรามที่จะต้องมีความแข็งแรง และ สามารถทำงานร่วมกันได้เป็นอย่างดี รวมไปถึงร่างกายจะต้องมีภูมิต้านทาน   เพื่อที่จะป้องกันอาการอักเสบหรืออาการติดเชื้อได้ในภายหลังการทำศัลยกรรม  เสริมคางด้วยในบางกรณีนอกจากศัลยกรรมเสริมคางแล้ว แพทย์อาจจะพิจารณาให้ผู้ป่วยควรที่จะปรับแก้ไขรูปหน้าส่วนล่างร่วมด้วย โดยการฉีดฟิลเลอร์เพื่อเติมเต็มให้รูปคางชัดเจนและสวยงามมากยิ่งขึ้น

วิธีที่ใช้ในการเสริมคาง ?

การเสริมคางจะใช้ซิลิโคนแท่ง วิธีนี้ใช้ในกรณีที่ต้องการเสริมน้อยหรือปานกลาง โดยทั่วๆไป อาจทำได้ 2 วิธี คือ การเปิดแผลในปาก หรือ การเปิดแผลภายนอก  ซิลิโคนคาง มี 2 แบบ คือ แบบปกติ ใช้สำหรับเสริมบริเวณกลางของคาง 

review เคสศัลยกรรมคาง

***ผลลัพท์ที่ได้ขึ้นอยู่กับแล้วแต่บุคคล