ขนรักแร้ คือ ขนที่ขึ้นตรงบริเวณรักแร้อันเนื่องมาจากผลการทำงานของฮอร์โมนแอนโดรเจนของผู้ชายและผู้หญิงที่อยู่ในวัยเจริญพันธุ์ มีประโยชน์ในการช่วยเพิ่มการกระจายของฟีโรโมนซึ่งช่วยกระตุ้นอารมณ์และพฤติกรรมทางเพศของผู้ได้รับ อีกทั้งยังช่วยลดการเสียดสีของผิวหนังบริเวณรักแร้
ทั้งนี้ ขนรักแร้จะเริ่มขึ้นเมื่อเข้าสู่วัยรุ่น โดยปกติ เด็กหญิงจะเข้าสู่วัยรุ่นก่อนเด็กชายประมาณ 1 – 2 ปี ผู้หญิงโดยเฉลี่ยจะเริ่มมีขนรักแร้เมื่ออายุประมาณ 12 – 13 ปี (ประมาณมัธยมศึกษาปีที่ 1) ส่วนผู้ชายจะเริ่มมีขนรักแร้เมื่ออายุประมาณ 13 – 14 ปี (ประมาณมัธยมศึกษาปีที่ 2) (ข้อมูลจากการสังเกตรักแร้ของเพื่อนของผู้เขียนในห้องสมัยเรียนและเด็กวัยรุ่นโดยทั่วไปเท่าที่จะสามารถสังเกตได้) ปัจจัยที่ส่งผลต่อการขึ้นของขนรักแร้นั้น พบว่าเกิดจาก ปริมาณและการหลั่งของฮอร์โมน รวมถึง “สภาพจิตใจ” ของแต่ละคนว่ารู้สึกว่าตัวเองเป็นวัยรุ่นแล้วมากน้อยแค่ไหน ส่วนปริมาณและลักษณะของขนรักแร้ (เช่น เหยียดตรงหรือหยิก) นั้นเชื่อว่าเป็นผลมาจากพันธุกรรม ซึ่งรวมถึงเรื่องของ “ชาติพันธุ์” ด้วย พบว่า มนุษย์เผ่าพันธุ์ “คอเคซอยด์” จะมีปริมาณขนรักแร้มากที่สุด โดยเฉพาะอย่างยิ่ง กลุ่มที่เราเรียกว่า “แขก” ในขณะที่เผ่าพันธุ์ “นิกรอย” จะมีปริมาณขนรักแร้น้อยและสั้น สีของขนรักแร้มักจะเป็นสีเดียวกับสีผมและสีขนในส่วนอื่น ๆ ของร่างกายซึ่งขึ้นอยู่กับพันธุกรรมเช่นกัน
ในบางวัฒนธรรมผู้หญิงจะนิยมไว้ขนรักแร้และถูกมองว่าเซ็กซี่เช่น ในจีน, ไต้หวัน, เกาหลี, และบางส่วนในประเทศญี่ปุ่น อีกทั้งยังมีคนบางกลุ่มซึ่งแม้ไม่ได้อยู่ในประเทศที่มีวัฒนธรรมนิยมการไว้ขนรักแร้ แต่ก็มีความเห็นว่า คนที่มีขนรักแร้มีความดึงดูดและสร้างแรงกระตุ้นทางด้านเพศ อย่างไรก็ตาม วัฒนธรรมโดยทั่วไป ผู้หญิงจะกำจัดขนรักแร้ด้วยการถอน โกนหรือแว็กซ์ หากผู้หญิงคนใดไว้ขนรักแร้จะถูกมองว่าเป็นเรื่องประหลาด ไม่รักษาความสะอาด ส่วนผู้ชายนั้น มีความเชื่อในทางตรงกันข้ามคือ ถ้าผู้ชายคนใดกำจัดขนรักแร้ อาจถูกมองว่ามีพฤติกรรมในลักษณะเกย์ หรืออื่น ๆ เพราะขนรักแร้เป็นสัญลักษณ์แสดงความเป็นชายอย่างหนึ่ง มีรายงานทางการแพทย์ยืนยันอย่างต่อเนื่องว่า ขนรักแร้เป็นแหล่งหมักหมมของเชื้อแบคทีเรียที่เกิดขึ้นขณะเหงื่อออก หากปล่อยทิ้งไว้นาน ไม่รักษาความสะอาดก็จะเป็นที่มาของกลิ่นไม่พึงประสงค์ทำให้เป็นที่น่ารังเกียจได้ ดังนั้น จึงควรดูแลรักษาความสะอาดบริเวณรักแร้และขนรักแร้ไม่ให้เป็นแหล่งสะสมเชื้อโรค
คอร์ส IPL กำจัดขน
การเตรียมตัวก่อนการรักษา
ควรหลีกเลี่ยงการอาบแดดก่อนทำการรักษาประมาณ 2-3 สัปดาห์ เพราะถ้าบริเวณที่ทำการรักษามีสีเข้ม ผิวบริเวณนั้น จะดูดซับแสงได้เช่นเดียวกับเม็ดสีในขนอาจทำให้ผิวบริเวณนั้นไหม้ ได้ ควรหลีกเลี่ยงการแวกซ์ หรือ ถอนขนประมาณ 1 -2 เดือน ก่อนทำการรักษา เพราะจะทำให้รากขนบางส่วนหายไป ทำให้การรักษาไม่ได้ผลเท่าที่ควร
ในการรักษา ควรทำนานเพียงใด?
จำนวนครั้งในการรักษาขึ้นอยู่กับการตอบสนองในการรักษาของแต่ละบุคคล แต่ควรทำการรักษา อย่างต่อเนื่องทุก 4 – 5 สัปดาห์ โดยเฉลี่ยประมาณ 6-8 ครั้ง
การกำจัดขนแปลว่าจะไม่มีขนขึ้นบริเวณนั้นอีกเลย ใช่หรือไม่ ?
การกำจัดขนถาวรด้วย IPL ไม่ได้หมายความว่าจะไม่มีขนขึ้นบริเวณนั้นอีกเลย 100 % แต่หลังจบ ขนบริเวณนั้นจะลดลงประมาณ 80% ขนที่ตายไปแล้วจะไม่สามารถเกิดขึ้นใหม่ได้อีก แต่ขนที่เราเห็นงอกขึ้นมาใหม่ หลังการรักษาประมาณ 6-12 เดือนนั้นเกิดจาก hair follicle ที่อยู่ใกล้เคียงกับอันที่เราทำลายไปแล้วสร้างขนขึ้นมาใหม่ซึ่งตอนนั้น hair follicle เหล่านี้ยังไม่เจริญเติบดตขนจึงไม่มีเม็ดสีสำหรับดุดซับแสงในเวลานั้น hair follicleเหล่านี้จึงไม่ถูกทำลายไปในตอนนั้น
การกำจัดขนด้วยวิธีนี้มีความเจ็บปวดมากน้อยเพียงใด?
ขณะทำการรักษา ผู้รับการรักษาจะรู้สึกเจ็บร้อนลึกๆ ใต้ผิวหนัง บริเวณที่มีเส้นขนหนาแน่นหรือเส้นขนจะรู้สึกร้อนมากกว่าบริเวณอื่น ก่อนทำการรักษาจะมีการประคบเย็นเพื่อให้ไม่รู้สึกร้อนจนเกินไป
***ผลลัพท์ที่ได้ขึ้นอยู่กับแล้วแต่บุคคล
คอร์ส Medlite c6 กำจัดขน
ขั้นตอนในการทำการรักษา
1.ทำการตัดขนบริเวณที่ต้องการรักษาออกให้เหลือประมาณ 0.1-0.2 CM. เพื่อประสิทธิภาพในการดูด
2.ประคบเย็นจนรู้สึกชาบริเวณที่ต้องการรักษา เพื่อไม่ให้รว่าได้รับความร้อนจากพลังงานเกินไป
3.ตั้งค่าพลังงานตามลักษณะของขน เพื่อประสิทธิภาพที่ดียิ่งขึ้น
4.ยิงเลเซอร์เพื่อกำจัดขนบริเวณที่ต้องการรักษา
5.ทายาแก้แพ้ให้ทุกครั้งหลังการรักษา
ผลที่ได้รับหลังการรักษา
หากคนไข้ไม่เคยทำการรักษาแนะนำให้ทำเลเซอร์ทั้ง 2 ชนิดเพื่อประสิทธิภาพที่ดีขึ้น บริเวณที่ทำการรักษาขน ขนจะหายไปประมาณ 80 % ขนที่เหลือจะมีขนาดเล็กบาง และสีจางลงมากและสีผิวบริเวณที่ทำการรักษาจะมีลักษณะเรียบเนียนมากยิ่งขึ้น